
ในที่นี้แนะนำสำหรับ Windows 7 นะครับ
ส่วน Vista, Windows XP ก็คงต้องเดาจากขั้นตอนกันเองครับผม
แนะนำว่า ควรมีพื้นฐานการใช้งานวินโดวส์ และการปรับแต่งระบบพอควร
ปิดการใช้งาน Task Scheduler เพื่อปิดกั้นการทำงานบางอย่างจากวินโดวส์
- คลิ้กขวาที่ Computer เลือก Manage
- กดไปที่หัวข้อ System Tools . Task Scheduler . Task Scheduler Library . Microsoft . Windows
- เลือกที่หัวข้อ Defrag แล้วคลิ้กขวาที่รายการด้านขวามือ เลือก Disable
- จากนั้นเลื่อนลงมา แล้วกดเลือกที่หัวข้อ Offline Files แล้วคลิ้กขวาที่รายการด้านขวามือเช่นกัน เลือก Disable ทั้งสองรายการ
- จากนั้นก็เลื่อนลงมาอีก แล้วกดเลือกที่หัวข้อ WindowsBackup คลิ้กขวาที่รายการด้านขวามือเช่นกัน เลือก Disable
ปิดการใช้งาน Services เพื่อไม่ให้ทำงาน
- กดไปที่หัวข้อ Services and Applications . Services
- ที่ด้านขวามือ คลิ้กขวาที่หัวข้อ Disk Defragmenter เลือก Properties จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมา
- ที่แท็ป General ตรงบรรทัด Startup type ให้เลือกเป็น Disabled แล้วกดปุ่ม Stop เพื่อหยุดการทำงานคำสั่ง แล้วกด OK
- เลื่อนลงไปที่หัวข้อ Offline Files เพื่อปิดการทำงานเช่นกัน โดยคลิ้กขวาที่หัวข้อ Offline Files
เลือก Properties จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมา
- ที่แท็ป General ตรงบรรทัด Startup type ให้เลือกเป็น Disabled แล้วกดปุ่ม Stop เพื่อหยุดการทำงานคำสั่ง แล้วกด OK
- เลื่อนลงไปที่หัวข้อ Superfetch เพื่อปิดการทำงาน โดยคลิ้กขวาที่หัวข้อ Superfetch
เลือก Properties จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมา
- ที่แท็ป General ตรงบรรทัด Startup type ให้เลือกเป็น Disabled แล้วกดปุ่ม Stop เพื่อหยุดการทำงานคำสั่ง แล้วกด OK
- เลื่อนลงไปที่หัวข้อ Windows Backup เพื่อปิดการทำงาน โดยคลิ้กขวาที่หัวข้อ Windows Backup
เลือก Properties จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมา
- ที่แท็ป General ตรงบรรทัด Startup type ให้เลือกเป็น Disabled แล้วกดปุ่ม Stop เพื่อหยุดการทำงานคำสั่ง แล้วกด OK
- เลื่อนลงไปที่หัวข้อ Windows Search เพื่อปิดการทำงาน โดยคลิ้กขวาที่หัวข้อ Windows Search
เลือก Properties จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมา
- ที่แท็ป General ตรงบรรทัด Startup type ให้เลือกเป็น Disabled แล้วกดปุ่ม Stop เพื่อหยุดการทำงานคำสั่ง แล้วกด OK
ปรับแต่งระบบส่วนอื่น
- คลิ้กขวาที่ Computer เลือก Properties
- ที่ด้านขวามือ กดเลือกที่ System protection
- เลือกที่ Drive C (System) แล้วกดปุ่ม Configure
- เลือกหัวข้อ Turn off system protection
- ที่หัวข้อ Disk Space Usage บรรทัด Max Usage ให้เลื่อนขีดมาด้านซ้ายมือสุด
- กดปุ่ม Delete จะขึ้นหน้าต่างมาใหม่ ให้กดปุ่ม Continue แล้วกดปุ่ม Close
- ทำซ้ำในไดว์อื่น ๆ ที่มี โดยเลือก Drive D, E, F ... ส่วนของ Protection Settings เพื่อปิด system protection
- ที่แท็ป Advanced ในหัวข้อ Performance กดปุ่ม Settings
- กดที่แท็ป Advanced ที่หัวข้อ Virtual memory กดปุ่ม Change...
- ทำการยกเลิก page file ในไดว์ C โดยกดเลือกที่ C แล้วเลือกหัวข้อ No paging file แล้วกดปุ่ม Set
- ย้าย page file ไปไว้ที่ไดว์อื่น ที่เป็น HDD ทั่วไป โดยกดเลือกไดว์ที่ต้องการ
ในรูปจะเป็น G แล้วเลือกหัวข้อ System managed size เพื่อให้วินโดวส์กำหนดขนาดของ page file เอง
หรือจะกำหนดเอง โดยเลือกที่ Custom size
โดยค่าที่กำหนด ให้ดูจากหัวข้อ Total paging file size for all drives
ในส่วนของ Recommended ดูว่าวินโดวส์ต้องการไฟล์ขนาดเท่าไหร่
โดยส่วนใหญ่แล้วการคำนวณคร่าว ๆ ของค่า Maximum size ของ page file จะเป็น 1.5 เท่า ของแรมที่มี
ยกตัวอย่างเช่น มีแรมอยู่ 4G ก็จะเป็น 6144 (4 x 1.5 x 1024)
และค่า Initial size จะเป็นค่าแรม (4 x 1024)
สูตรการคำนวณค่า page file ที่คิดขึ้นมาเอง
Maximum size
Ram x 1024 x 1.5 - (Hardware Reserved x 1.5)
Initial size
Ram x 1024 - (Hardware Reserved x 1.5)
ทั้งสองค่า ถ้ามีจุดทศนิยม ให้ปัดทิ้ง
ยกตัวอย่างเช่น
Ram = 8G
Hardware Reserved = 1M
Maximum size = 8 x 1024 x 1.5 - (1 x 1.5) = 12286.5 (ได้ค่า Max = 12286)
Initial size = 8 x 1024 - (1 x 1.5) = 8190.5 (ได้ค่า Initial = 8190)
การหาค่า Hardware Reserved ทำได้โดยการ เปิด Windows Task Manager
โดยคลิ้กขวาที่ Task bar แล้วเลือก Start Task Manager (หรือกดปุ่ม Ctrl - Shift - Esc)
จากนั้นกดไปที่แท็ป Performance แล้วกดปุ่ม Resource Monitor
จะมีหน้าต่าง Resource Monitor ขึ้นมา กดไปที่แท็ป Memory
สังเกตที่ ช่องด้านล่าง ในหัวข้อ Physical Memory
จะมีแถบสีของ Hardware Reserved ซึ่งจะบอกว่า ใช้แรมไปเท่าไร
จัดการย้าย Temp files
- กลับมาที่หน้าต่าง System Properties ไปที่แท็ป Advanced
- กดที่ปุ่ม Environment Variables
- ทำการเปลี่ยนที่เก็บ Temp file ที่หัวข้อ User variables for admin
โดยเลือกที่ TEMP แล้วกดปุ่ม Edit
เปลี่ยนที่เก็บไฟล์ในช่อง Variable value ให้เป็นไดว์อื่น
Code: [Select]
เช่น D:\Temp
- และ TMP โดยเลือกที่ TMP แล้วกดปุ่ม Edit
เปลี่ยนที่เก็บไฟล์ในช่อง Variable value ให้เป็นไดว์อื่น
Code: [Select]
เช่น D:\Temp
ยกเลิก Hibernate
กดที่ปุ่มวินโดวส์ เลือก All Programs เลือกไปที่ Accesscories
คลิ้กขวาที่ Command Prompt เลือก Run as administrator
พิมพ์คำสั่ง
powercfg -h off
แล้วกด Enter
ไฟล์ hiberfil.sys ใน C จะหายไป และการใช้งาน Hibernate จะถูกยกเลิกไปด้วย
ปิด Sleep
- เปิด Control Panel กดไปที่ไอค่อน Power Options
- กดที่ Change plan settings ในหัวข้อที่ใช้งานอยู่
ในภาพจะเป็นหัวข้อ High performance
- กดไปที่ Change advanced power settings
- ที่ตัวเลือก Hard disk ในหัวข้อย่อย Turn off hard disk after
-- Computer (PC)
ในหัวข้อ Setting (Minutes) ให้ใส่เลข 0 ลงไป
-- Notebook (Laptop)
ในหัวข้อ ...
On battery (Minutes) ใส่เลข 0 ลงไป
Plugged in (Minutes) ใส่เลข 0 ลงไป
ปิด Indexed files (ดัชนีในการค้นหาข้อมูล)
- เปิด My Computer
- คลิ้กขวาที่ Drive C (และ/หรือ ไดว์อื่น ๆ ที่เป็น SSD) แล้วเลือก Properties
- ยกเลิกคำสั่ง (เอาเครื่องหมายถูกออก) ที่หัวข้อ Allow files on this drive to have contents indexed in addition to file properties
- กด Apply
- กดเลือกหัวข้อ
Apply changes to drive C:\, subfolders and files
แล้วกด OK
หากมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมา ให้กด Ignore All
เพียงเท่านี้ SSD ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
credit : http://www.varietypc.net/webboard/?topic=4980.0
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น